ฺBK:Dried fruit ผลไม้อบแห้ง : สรุปขั้นตอน-วิธีอัพเดท iOS 9.3 แบบง่าย ๆ บน iPhone, iPad และ iPod touch

หลังจากแอปเปิลปล่อย iOS รุ่นใหม่ ของ iPhone, iPod Touch และ iPad ให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถอัพเดตได้แล้ว หลายๆคนอาจจะมีคำถามว่า เราควรจะอัพเดตอย่างไรให้ปลอดภัยที่สุด อัพแล้วข้อมูลจะหายหรือไม่ ลองมารายละเอียดและขั้นตอนดูกันครับ

คำเตือน สำหรับผู้ใช้ iOS 6 หรือ 7 ที่จะอัพเดต iOS 9.3 เป็นครั้งแรก:
iCloud Drive จะใช้งานบน iPhone 4 หรือรุ่นเก่ากว่าไม่ได้ทั้งหมด!
รายละเอียดเพิ่มเติม ดูที่ http://www.macstroke.com/23528/warning-before-updating-ios-8

มีอะไรใหม่ใน iOS 9.3

ปรับปรุงความเร็วในการใช้งานทั้งหมดของ iPhone / iPad / iPod touch รุ่นเก่าๆ
Night Shift ระบบปรับแสงหน้าจอให้เหมาะสมกับการมองในที่มืด หรือใช้งานในเวลากลางคืนที่ไม่มีแสงไฟ โดยหน้าจอจะปรับให้ออกโทนเหลืองเพื่อการมองที่สบายตามากขึ้น
ตั้งรหัสผ่าน / Touch ID ในการเข้าใช้งาน Notes
Apple Music ไม่แก้ปก หรือรายละเอียดเพลงที่เคยลงไว้เอง
ดู Live Photos ใน iPhone / iPad / iPod touch รุ่นที่ไม่มีจอ 3D touch
ปรับปรุงความเสถียรในการใช้งานร่วมกับ Keyboard ต่อแยก
รองรับระบบเสียง Dolby Digital Plus

มีอะไรใหม่ใน iOS 9 – 9.3

แก้ปัญหาอาการสไลด์ตั้งค่าเพื่อใช้งานหลังอัปเดทไม่ได้ / อาการค้างขณะอัปเดท / ค้างเนื่องจากเข้าใช้ Apple ID เมื่ออัปเดตเสร็จ
แก้ปัญหาการปลุกหรือนาฬิกาจับเวลาทำงานผิดพลาด
แก้ปัญหาเมื่อเล่นหยุดพักวิดีโอที่เปิดใน Safari กับ Photos แล้วเล่นต่อไปแต่ยังค้างภาพสุดท้ายตอนหยุดพัก
แก้ปัญหาอาการ APN Setup ใช้งานกับเครือข่ายทำให้การใช้งานกับเครือข่ายมือถือมีปัญหา

แก้ปัญหาสั่งเปิดหรือปิด Cellular data แบบเจาะจงแต่ละ App หรือแต่ละการใช้งานไม่ได้
แก้ปัญหาลงทะเบียนใช้ iMessage ไม่ได้
แก้ปัญหา Backup ผ่าน iCloud Backup ไม่สำเร็จหากสั่ง Backup ด้วยตัวเอง
แก้ปัญหาการแจ้งเตือนโผล่ออกมาจากจอผิดด้านไปจากแนวจอที่กำลังใช้งานอยู่
ปรับปรุง Podcasts ให้เสถียรขึ้น

เพิ่ม Emoji ชุดใหม่ รวมถึงรองรับ Emoticon Code v.7.0 และ v.8.0
(เฉพาะ iPhone 6s) เพิ่มความสามารถในการจับการเคลื่อนไหวของแขนระหว่างการบันทึก Live Photos โดยอัตโนมัติ โดยปล่อยแขนลงเพื่อหยุดการถ่ายภาพชั่วคราว หรือยกแขนขึ้นเพื่อถ่ายภาพต่อโดยอัตโนมัติ

ปรับปรุงให้ Apple Music สามารถสร้าง Playlist ใหม่ได้ (ก่อนหน้านี้บังคับใช้ Apple Music Playlist หรือสร้าง Playlist จาก iTunes)
เพิ่มปุ่ม iCloud Download ใน Apple Music เพื่อเซฟเพลงเก็บลงเครื่องได้โดยตรง
เพิ่ม Mail Drop ทำให้สามารถส่งไฟล์ขนาดใหญ่ได้
รองรับ USB Camera Adaptor ทำให้สามารถโอนภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัล หรือกล้อง DSLR เข้าเครื่องได้โดยตรงหลังถ่าย
เพิ่มภาษาอาหรับให้ Siri
[HOTFIX – 19/2/2016] แก้ปัญหา Error 53 โดยหลังจากนี้คนที่ซ่อม iPhone จากร้านข้างนอก เมื่อ iOS ตรวจพบ จะปิดการทำงานของ Touch ID โดยอัตโนมัติ และจะสามารถใช้งานได้อีกครั้งเมื่อนำเครื่องไปเคลมที่ศูนย์บริการ

มีอะไรใหม่ใน iOS 9.2.1 บ้าง?

Proactive assistance : ผู้ช่วยที่เดาใจการใช้งานล่วงหน้าของเราได้ ไม่ว่าจะสิ่งที่เราจะพิมพ์ค้นหา, คำนวณเวลาเดินทางเมื่อเทียบกับข้อมูลสภาพจราจร, เรียนรู้ชีวิตประจำวันว่า เราจะฟังเพลง ใช้งานอะไรบ้าง ในแต่ละช่วงเวลา ผ่านการจดจำนิสัยการใช้งานของเรา
Siri : ค้นหารูป วีดีโอ จากวันที่ สถานที่ อัลบั้มของเรา, ตั้งเตือนการใช้งานร่วมกับ App อื่นๆ ไม่ว่าจะกำลังใช้งานอยู่หรือยังไม่ได้ใช้งาน, ถามเส้นทางการเดินทางด้วยขนส่งมวลชน (รองรับแค่บางประเทศ)
Spotlight : ถามผลกีฬา สภาพอากาศ ราคาหุ้น, เครื่องคิดเลขอย่างง่าย, เขียนข้อความ โทรออก หรือ FaceTime ไปที่สมุดโทรศัพท์ได้จากช่องค้นหา
Maps : รองรับข้อมูลการโดยสารแบบขนส่งมวลชน (รองรับแค่บางประเทศ) ดูข้อมูลสถานที่โดยรอบที่เราอยู่ผ่านการแบ่งหมวดหมู่ต่างๆ แจ้งตำแหน่งว่าร้านหรือสถานที่ใดมี Apple Pay ให้ใช้ และป้ายชื่อ สถานที่สำคัญ สามารถดูข้อมูลจาก Wikipedia ได้
Notes : ใส่รูป วาดเส้น ทำรายการเช็คลิสต์
News : หนังสือพิมพ์ วารสาร เว็บต่างๆ ที่เราสนใจอ่านเป็นประจำ จากหลากหลายสื่อฯ สามารถดูได้จาก News พร้อมอัปเดตเนื้อหาใหม่ๆ ทุกวัน
Mail : ปรับปรุงการค้นหาให้เร็วขึ้น รองรับการทำ Markup บนรูปภาพ รวมถึงเขียนลายเซ็นจากเมลได้ทันที และเก็บไฟล์ที่ส่ง หรือไฟล์ที่ส่งการส่งลง iCloud Drive ได้ขณะที่เขียนจดหมาย
Apple Pay : รองรับบัตร Discover รองรับบัตรสะสมแต้มแลกของสมนาคุณหรือโปรโมชั่นกับร้านค้า และชำระเงินด้วยการกดปุ่ม Home สองครั้งและแช่นิ้วบน Touch ID
iCloud Drive : ค้นหาไฟล์ได้ง่ายขึ้น เปิดไฟล์ด้วย App ที่ใช้งานได้ตรงขึ้น จัดระเบียบไฟล์ได้ง่ายขึ้น และลง App iCloud Drive เพื่อเข้าใช้งานได้ง่ายขึ้น
CarPlay : ฟังข้อความเสียงเพื่อฟังเสียงพูดจากเจ้าของเสียงได้โดยตรง

ปรับปรุงประสบการณ์ใช้งานใน iPad

Side Over : เปิดใช้งาน App ตัวอื่นได้ โดยไม่จำเป็นต้องออกจาก App ปัจจุบันที่กำลังใช้งานอยู่ รวมถึงสลับการใช้งานไปมาได้ทันทีระหว่างสอง App ที่เปิดใช้งานอยู่
Split View : ใช้ App คู่กัน พร้อมกันในเวลาเดียวกันได้ รวมถึงแบ่งการแสดงผล App ออกเป็นสองหน้าจอพร้อมกันได้
Picture in Picture : ชมวีดีโอซ้อนกับหน้าจอ App ที่เรากำลังใช้งานอยู่ ไม่ว่าจะเปิดผ่าน Safari, FaceTime, Videos, Poadcast, หรือ App ที่ดูวีดีโอได้อื่นๆ
แป้นพิมพ์ใหม่ : รองรับ Multi-Touch ในการเลื่อนตำแหน่งการพิมพ์ข้อความได้ มีปุ่มลัดช่วยแก้ไขข้อความได้ง่ายขึ้น หากใช้งานกับคีย์บอร์ดไร้สาย ทุกคีย์ลัดสามารถกดใช้งานได้ และ Emoji ธงชาติแบบ Unicode

ทั้งหมดนี้ สามารถอ่านฉบับเต็มเพิ่มได้ที่ “ทำความรู้จักความสามารถของ iOS 9 “ส่วนเติมเต็มของ iPad และ iPhone ต้องการ”

ขั้นตอนในการอัพเดต iOS ง่าย ๆ 5 ขั้นตอน

ถ้าพร้อมแล้ว กดลิงค์ด้านล่างไปดูขั้นตอนในการอัพเดต iOS กันได้เลย
อ่านให้เข้าใจและทำตาม รับรองว่าข้อมูลไม่หายครับ

ตรวจสอบอุปกรณ์ว่ารองรับ iOS รุ่นล่าสุดแล้วรึเปล่า? (โดยเฉพาะ iPhone)
อัพเดต iTunes เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด (iTunes 12.3.1)
สำรองข้อมูลที่สำคัญเก็บไว้ โดยเฉพาะเบอร์โทรและรูปถ่าย
เคลียร์พื้นที่ในเครื่องให้ว่างสัก 2-3GB
อัพเดต iOS จากในอุปกรณ์ของเราเองได้เลย

ขั้นตอนในการอัพเดต iOS ง่าย ๆ 5 ขั้นตอน

ถ้าพร้อมแล้ว กดลิงค์ด้านล่างไปดูขั้นตอนในการอัพเดต iOS กันได้เลย
อ่านให้เข้าใจและทำตาม รับรองว่าข้อมูลไม่หายครับ
1.) ตรวจสอบอุปกรณ์ที่รองรับ iOS 9.2.1 กันก่อน

อุปกรณ์ที่สามารถอัพเดต iOS 9.2.1 ได้แก่
- iPhone 4s, iPhone 5, iPhone 5c, iPhone 5s, iPhone 6, iPhone 6 Plus, iPhone 6s และ iPhone 6s Plus เครื่องศูนย์ไทย หรือเครื่อง Unlock เท่านั้น*
- iPad 2, iPad รุ่นที่ 3-4, iPad Air, iPad Air 2 ทุกเครื่อง
- iPad mini ทุกรุ่น
- iPod Touch รุ่นที่ 5 / รุ่นที่ 6
*สำหรับ iPhone หากเป็นเครื่องศูนย์ไทย (ทั้งเครื่องใหม่และเครื่องเคลม) หรือเครื่องหิ้วที่มั่นใจว่าเป็น Official Unlock สามารถอัพเดต iOS 9.2.1 ได้เลยครับ

ส่วนเครื่อง iPhone ที่ถูกล็อคเครือข่าย (เช่น เครื่องส่วนใหญ่จากสหรัฐอเมริกา) ไม่แนะนำให้อัพเดต iOS 9.2.1 ในเวลานี้ เพราะจะทำให้เครื่องติดล็อค และไม่สามารถใช้งานได้

ผู้ใช้ iPhone 4, iPod touch รุ่นที่ 4 และ iPad รุ่นแรก หรืออุปกรณ์ที่เก่ากว่านี้ทั้งหมด ไม่สามารถอัพเดต iOS 9.2.1 ได้นะครับ เสียใจด้วย

2.) อัพเดต iTunes เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด

ขั้นตอนที่ 2 คือการอัพเดต iTunes รุ่นล่าสุดครับ เนื่องจาก iTunes รุ่นใหม่ๆจะรองรับและเข้ากันได้กับ iOS 9 ทำให้เราสามารถใช้งานคุณสมบัติต่าง ๆ อย่างการแชร์อินเทอร์เน็ต, การโอนรูปถ่ายเข้าคอม หรือการสำรองข้อมูล ได้โดยไม่มีปัญหา

วิธีการติดตั้งหรืออัพเดต iTunes รุ่นใหม่ใน Windows

การติดตั้งหรืออัพเดต iTunes บน Windows ก่อนอื่นเราต้องมีไฟล์ติดตั้งก่อนครับ โดยเข้าไปโหลดที่นี่ http://www.apple.com/th/itunes/download/

เราจะพบปุ่ม ดาวน์โหลด อันใหญ่ ๆ ด้านซ้ายของหน้าจอ ตามภาพ ให้กดปุ่มดาวน์โหลดได้เลย ไม่จำเป็นต้องกรอกอีเมลของเราครับ (แต่หากใครต้องการรับข่าวสารต่าง ๆ จากแอปเปิล ก็สามารถกรอกอีเมลของเราลงไปได้) โดยขนาดของแอปจะใหญ่ประมาณ 100MB

เมื่อดาวน์โหลดเสร็จ เราจะได้ไฟล์ชื่อ iTunesSetup.exe ให้ดับเบิลคลิกไฟล์นี้ เพื่อติดตั้ง แล้วกดปุ่ม Next ต่อไป

iTunes จะให้เรายอมรับข้อตกลงในการใช้โปรแกรม ให้ติ๊กถูก เลือก “ยอมรับข้อตกลง” (I accept the terms in the license agreement) แล้วกด Next

เมื่อมาถึงหน้าจอตามภาพด้านล่างนี้ เราแนะนำให้ติ๊กเลือกภาษา (Default iTunes language) เป็นภาษาไทยไว้ด้วย ก่อนที่จะกด Install ครับ

หลังจากกด Install ในบางเครื่องอาจมีหน้าจอลักษณะนี้ขึ้นมาถาม ให้ตอบ Yes เพื่อยืนยันการติดตั้ง iTunes ลงเครื่องได้เลย แล้วทำตามหน้าจอติดตั้งไปเรื่อย ๆ เป็นอันเรียบร้อย

วิธีการติดตั้งหรืออัพเดต iTunes รุ่นใหม่ใน Mac

หลังจากที่ iTunes เวอร์ชั่นใหม่ออกแล้ว จะมีข้อความเตือนที่มุมจอขึ้นมาเอง ให้ไปที่ Mac App Store แล้วจิ้ม Updates ได้เลยครับ ง่าย ๆ

3.) สำรองข้อมูลเพื่อป้องกันความผิดพลาด

การสำรองข้อมูลผ่าน iCloud หรือ iTunes เป็นการป้องกันข้อมูลสูญหายที่ดีที่สุดทางหนึ่ง เนื่องจากเราไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่าระหว่างอัพเดต จะมีเหตุสุดวิสัยใด ๆ เกิดขึ้นครับ ดังนั้น กันไว้ดีกว่าแก้

ดูวิธีการสำรองข้อมูลด้วย iCloud หรือ iTunes ที่นี่ http://www.macstroke.com/10863

4.) เคลียร์พื้นที่ในเครื่องให้ว่างสัก 2-3GB

การดูพื้นที่ใช้งานของเครื่อง ทำได้โดยไปที่ Settings > General > Usage (การตั้งค่า > ทั่วไป > การใช้งาน) จะเห็นว่าที่ว่างของเครื่องเหลือเท่าไรบ้าง
- สำหรับ iPhone 4s, iPod touch, iPad 2 และ iPad mini ควรเผื่อพื้นที่ว่างไว้ 1-2GB
- และสำหรับ iPhone 5, iPhone 5c, iPhone 5s, iPhone 6, iPhone 6 Plus, iPad with Retina Display และ iPad Air ควรเผื่อพื้นที่ว่างไว้อย่างน้อย 2-3GB ก่อนทำการอัพเดตนะครับ
เราสามารถลบแอปที่กินพื้นที่มาก ๆ อย่างเกมต่าง ๆ ที่ไม่ค่อยเล่น และ Instagram ออกไปก่อนได้ด้วย โดยการลงแอปที่เคยโหลดอีกครั้ง จะไม่เสียค่าใช้จ่ายซ้ำแต่อย่างใด โหลดได้ใน App Store > Updates > Purchased (App Store > อัพเดท > สินค้าที่ซื้อแล้ว) ครับ

5.) อัพเดต iOS 9.2.1 จากบนอุปกรณ์ของเราเอง

หลังจากเตรียมการเรียบร้อยแล้ว และมั่นใจว่าข้อมูลถูกสำรองไว้ครบ ให้อัปเดต iOS จากบนอุปกรณ์ของเราเองได้เลย โดยต่อ Wi-Fi ที่เน็ตแรง ๆ และชาร์จ iPhone, iPad หรือ iPod touch ให้เต็มก่อนด้วย

อ่านวิธีอัพเดต iOS จากบนอุปกรณ์ของเราเองได้ ที่นี่ CR: http://www.macstroke.com/2210

เป็นอันเรียบร้อยกับวิธีการอัพเดต iOS แบบครบทุกขั้นตอนครับ